Last updated: 24 May 2025 | 11 Views |
ฟาซาด (Facade) หรือที่เรียกกันว่า "เปลือกอาคาร" คือองค์ประกอบภายนอกของอาคารที่มีหน้าที่สำคัญทั้งด้านสถาปัตยกรรมและการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องโครงสร้างภายใน ควบคุมอุณหภูมิ หรือเพิ่มความงาม ฟาซาดสามารถออกแบบได้หลากหลายตามลักษณะอาคาร เช่น ใช้เป็นแผงกันแดด ฉากโปร่ง หรือวัสดุเจาะรู ซึ่งส่งผลทั้งด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานและภาพลักษณ์ของอาคาร
อีกทั้งยังช่วยสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ในอาคารพาณิชย์หรือองค์กรต่างๆ ทำให้ฟาซาดกลายเป็นส่วนสำคัญที่ดีไซน์เนอร์ต้องคำนึงถึงในทุกขั้นตอนการออกแบบอาคาร
ฟาซาดเป็นองค์ประกอบเพื่อความสวยงามเท่านั้นจริงไหม? วันนี้ Wasuwat รวบรวมหน้าที่หลัก ๆ ของฟาซาดอาคารมาฝากกันแล้ว
ฟาซาดมีบทบาทในการป้องกันลม แดด ฝน และฝุ่นละอองจากสภาพแวดล้อมภายนอก ช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างอาคารภายใน ลดการซึมของความชื้น และป้องกันรังสี UV ที่อาจทำลายวัสดุภายในห้องหรือเฟอร์นิเจอร์
ด้วยการเลือกวัสดุที่สามารถกรองแสงหรือกระจายแสง ฟาซาดช่วยลดการสะท้อนแสงและป้องกันแสงจ้าในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ภายในอาคารได้รับแสงธรรมชาติในระดับที่เหมาะสม ส่งผลดีต่อสุขภาพสายตาและบรรยากาศการทำงาน
ฟาซาดทำหน้าที่เป็นชั้นกรองแรกในการลดความร้อนจากแสงแดดที่เข้าสู่อาคาร โดยเฉพาะอาคารที่หันหน้าเข้าทิศตะวันตก การออกแบบฟาซาดให้มีช่องระบายอากาศหรือใช้วัสดุสะท้อนความร้อน จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
ฟาซาดที่ออกแบบให้มีช่องว่างหรือโครงสร้างโปร่ง จะช่วยให้อากาศภายในอาคารถ่ายเทได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าต่างเสมอ อีกทั้งยังช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กจากภายนอกก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร
ฟาซาดที่ใช้วัสดุป้องกันเสียงหรือออกแบบให้ลดเสียงสะท้อน จะช่วยควบคุมเสียงจากภายนอก เช่น เสียงรถ หรือเสียงจากถนนใหญ่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาคารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนสูง
ฟาซาดสามารถออกแบบให้ช่วยบดบังสายตาจากภายนอกโดยไม่ปิดกั้นแสงและลม เช่น การใช้ระแนง เจาะลาย หรือวัสดุโปร่งแสง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยภายในรู้สึกเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
เมื่อฟาซาดทำหน้าที่ควบคุมแสง ลดความร้อน และกรองอากาศได้ดี ก็จะช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศหรือไฟฟ้าในเวลากลางวัน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานโดยรวม และลดต้นทุนระยะยาวในการดูแลอาคาร
ฟาซาดไม่เพียงทำหน้าที่ปกป้องอาคารจากสภาพแวดล้อมภายนอกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์และสไตล์ของอาคารได้อย่างชัดเจน การเลือกวัสดุสำหรับฟาซาดจึงเป็นหัวใจของการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง Wasuwat จะพาคุณไปรู้จักกับฟาซาด 10 ประเภทตามวัสดุที่นิยมใช้ พร้อมข้อแนะนำในการเลือกให้ตรงกับสไตล์ที่ต้องการ
ฟาซาดกระจกให้ภาพลักษณ์ทันสมัย โปร่งโล่ง และหรูหรา นิยมใช้ในอาคารสำนักงานสูง โรงแรม หรือโชว์รูม ช่วยให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าสู่ภายในอาคาร แต่ต้องออกแบบให้ป้องกันความร้อนและแสงจ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเลือกใช้กระจกสองชั้นหรือกระจกสะท้อนแสง
ฟาซาดสแตนเลสเป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เพราะมีความทนทานสูง ไม่เป็นสนิม ดูแลรักษาง่าย และให้ภาพลักษณ์หรูหรา วัสดุสแตนเลสสามารถออกแบบให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวแบบเงา แฮร์ไลน์ หรือเจาะลายเพื่อเพิ่มมิติทางแสงและเงา เหมาะกับอาคารเชิงพาณิชย์ โรงพยาบาล หรือโชว์รูม ที่ต้องการทั้งความงาม ความแข็งแรง และอายุการใช้งานยาวนาน
เป็นระบบผนังเบาที่ไม่รับน้ำหนักโครงสร้าง ใช้โครงอะลูมิเนียมหรือเหล็กรับกระจก โดยยึดจากด้านนอกอาคาร ช่วยสร้างความโปร่งสว่างและสไตล์โมเดิร์น แต่ต้องมีระบบป้องกันความร้อนและน้ำรั่วซึมที่ดี
เหมาะกับอาคารที่ต้องการความทนทานและความมั่นคง เช่น อาคารราชการหรืออาคารอุตสาหกรรม ฟาซาดคอนกรีตสามารถหล่อแบบให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ได้ ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้ดีไซน์แม้เป็นวัสดุทึบ
ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแรง และดูเป็นธรรมชาติ วัสดุหินธรรมชาติเหมาะกับอาคารหรู รีสอร์ท หรือโครงการที่เน้นงานดีไซน์คลาสสิก มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ติดตั้งและดูแลรักษาค่อนข้างยุ่งยาก
วัสดุโลหะ เช่น อะลูมิเนียมหรือซิงค์ ช่วยสร้างลุคโมเดิร์นและไฮเทค มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และสามารถขึ้นรูปให้โค้งงอหรือเจาะลวดลายได้ นิยมในอาคารสำนักงานและโชว์รูมทันสมัย
ให้ความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับอาคารพักอาศัย รีสอร์ท หรือโครงการแนว Eco-friendly ควรเลือกไม้ที่ผ่านการอบแห้งและเคลือบกันปลวกเพื่อยืดอายุการใช้งาน
วัสดุอิฐให้ภาพลักษณ์คลาสสิกและอบอุ่น สามารถใช้กับสไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์นอินดัสเทรียลได้ดี มีข้อดีคือทนทาน ระบายความร้อนได้ดี แต่มีน้ำหนักมากและใช้เวลาติดตั้งนาน
เป็นการผสมผสานวัสดุหลายชนิด เช่น อะลูมิเนียมผสมโพลีเอทิลีน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย มีสีสันให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับอาคารสมัยใหม่
ออกแบบให้มีช่องว่างระหว่างฟาซาดกับผนังเพื่อให้อากาศหมุนเวียน ลดความร้อนสะสมในอาคาร ช่วยประหยัดพลังงาน นิยมใช้กับอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และอาคารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิอย่างมีประสิทธิภาพ
Facade จาก Wasuwat โดดเด่นด้วยคุณภาพของวัสดุสแตนเลสที่ผ่านกระบวนการผลิตมาตรฐานสากล พร้อมเทคโนโลยีชุบสีขั้นสูงแบบ Heat Treatment และการล้างด้วยเครื่อง Ultrasonic ทำให้ได้พื้นผิวที่สะอาด สีสม่ำเสมอ และทนทานต่อรอยนิ้วมือ (AFP – Anti Finger Print) ผลิตภัณฑ์ของ Wasuwat ยังรองรับการใช้งานในงานดีไซน์ที่หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ด้วยสีสแตนเลสให้เลือกกว่า 100 เฉดสี และสามารถผลิตตามสเปกเฉพาะของลูกค้า จึงเหมาะสำหรับทั้งโครงการพาณิชย์และสถาปัตยกรรมระดับไฮเอนด์
Wasuwat คัดสรรสแตนเลสเกรด 304 และ 316 ที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ความร้อน และสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น ใกล้ทะเลหรือโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและกระบวนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ทำให้ Facade จาก Wasuwat ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังแข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนาน ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและดีไซน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wasuwat.co.th
การเลือกใช้ฟาซาดสแตนเลสเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับโครงการที่ต้องการความทนทานสูงและดีไซน์ทันสมัย วัสดุสแตนเลสมีความแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศ ไม่เป็นสนิม และดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการใช้งานระยะยาวโดยไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย อีกทั้งยังสามารถเลือกพื้นผิวและเฉดสีได้หลากหลาย
วัสดุสำหรับทำฟาซาดมีหลากหลายให้เลือกตามวัตถุประสงค์และงบประมาณ เช่น สแตนเลส กระจก คอนกรีต อลูมิเนียมคอมโพสิต แผ่นโลหะ ไม้, หินธรรมชาติ อิฐ ผ้าใบ และวัสดุโปร่งแสง โดยแต่ละวัสดุมีจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกวัสดุจึงควรคำนึงถึงทั้งเรื่องความงามและประสิทธิภาพการใช้งาน
ฟาซาดสามารถแบ่งประเภทได้ตามโครงสร้างและการทำงาน เช่น ฟาซาดแบบติดตาย (Fixed), แบบเปิด-ปิดได้ (Operable) แบบม่านกระจก (Curtain Wall) แบบผนังระบายอากาศ (Ventilated) และแบบเคลื่อนไหวได้ (Kinetic)
ราคาการออกแบบฟาซาดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความซับซ้อนของดีไซน์ วัสดุที่เลือกใช้ ขนาดพื้นที่ และระบบการติดตั้ง โดยค่าออกแบบทั่วไปอาจเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ส่วนค่าใช้จ่ายวัสดุและการติดตั้งอาจเริ่มที่ 1,500 – 5,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป
ฟาซาดมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและการใช้งานจริง เช่น ปกป้องอาคารจากแสงแดด ฝน ลม และฝุ่น ควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิภายในอาคาร เพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดเสียงรบกวน และช่วยให้อาคารประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ ฟาซาดยังเสริมภาพลักษณ์และเอกลักษณ์เฉพาะของอาคาร ช่วยให้โครงการโดดเด่น และเพิ่มมูลค่าในเชิงพาณิชย์และการตลาดอีกด้วย